เคล็ด(ไม่)ลับ การเลี้ยง นกกรงหัวจุก

เคล็ด(ไม่)ลับ การเลี้ยง นกกรงหัวจุก

ไม่ว่าจะเป็น ความงดงามในรูปร่าง ลีลา สีสันสวยงาม หรือสำนวนการร้องเพลงของ นกกรงหัวจุก หรือ นกปรอดหัวโขนเคราแดง ก็ล้วนเป็นปัจจัยที่มีเสน่ห์ดึงดูดให้คนรัก “นก” ต่างชื่นชมหลงใหลในนกป่าชนิดนี้ และนิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย จนกลายมาเป็นหนึ่งในสัตว์เศรษฐกิจสำคัญของประเทศ

ว่ากันว่า ราคาค่าตัวของ นกกรงหัวจุก ในแต่ละจังหวัดนั้นไม่เท่ากัน โดย นกกรงหัวจุก ของทางภาคใต้ จะมีราคาสูงที่สุด ซึ่งนกที่เป็นเพลงเเล้ว จะมีมูลค่าตัวละ 8,000-10,000 บาทขึ้นไป แต่หากเป็นลูกนก จะอยู่ที่ประมาณตัวละ 3,000-5,000 บาท

ทั้งนี้ การเลี้ยง นกกรงหัวจุก นั้นไม่ใช่เรื่องยาก หากแต่ใส่ใจในเรื่องอาหารการกินสักหน่อย และหมั่นสังเกตอาการของนกอยู่เป็นประจำ แต่หากใครที่เลี้ยงมากกว่า 1 ตัว ไม่ควรแขวนนกที่อายุน้อยใกล้กับนกที่อายุมาก เนื่องจากนกที่อายุมากกว่าอาจข่มนกอายุน้อย จนทำให้นกที่เด็กกว่าไม่กล้าส่งเสียงร้อง

ส่วนการนำ นกกรงหัวจุก ออกตากแดด แนะนำว่า ควรค่อย ๆ เพิ่มเวลาแขวน นกกรงหัวจุก ตากแดดมากขึ้น จากวันละ 1 ชั่วโมง เป็นวันละ 2 ชั่วโมง ในช่วงเวลาที่แดดอ่อน ๆ เพราะจะทำให้ นกกรงหัวจุก ได้รับวิตามินดี กระดูกจะแข็งแรง และสามารถส่งเสียงร้องเพลงได้นานขึ้นด้วย

สำหรับอาหารของ นกกรงหัวจุก ที่แนะนำ มีดังนี้

กล้วยน้ำว้าสุก : มีวิตามินสูง แก้ท้องผูก เสริมภูมิคุ้มกัน แต่อย่าให้กินนาน ๆ เพราะเนื้อกล้วยจะเหนียวติดปาก ทำให้นกร้องเสียงเพี้ยน

มะละกอสุก : ช่วยระบาย บำรุงสายตา ขับพยาธิเส้นด้าย

ส้มเขียวหวาน : มีวิตามินซี แก้เจ็บคอ ขับเสมหะ อาเจียน

ฝรั่งสุก : แก้ท้องร่วง บำรุงหัวใจ

มะม่วงสุก : แก้ท้องอืด บำรุงกระเพาะอาหาร

มะเขือเทศ : แก้เบื่ออาหาร บำรุงเลือด กระตุ้นกล้ามเนื้อ

แตงกวา : แก้ร้อนใน บำรุงปอด ช่วยย่อยอาหาร แต่ควรล้างให้สะอาด หรือนำไปแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน

พริกขี้หนูแดง หรือพริกสด : นำไปแช่น้ำผึ้ง ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี

บวบ : ช่วยระบายท้อง แก้ไข้ แก้ร้อนใน

หนอนนก ไข่มดแดง ปลวก จิ้งหรีด ตั๊กแตน แมลงเม่า : โปรตีนสูง

น้ำมันตับปลา : ช่วยสร้างขนนกให้เข็งแรง